พระผู้ช่วยให้รอดสำหรับคุณ

The prodigal son asking his father for his inheritance

คุณเป็นคนที่มีความสุขใช่ไหม? ความกลัวและความผิดบาปสามารถพรากความสุขของคุณได้ คุณอาจสงสัยว่า “ฉันจะมีความสุขได้อย่างไร”

ฉันมีข่าวดีที่จะบอกคุณ! มีคนผู้หนึ่งที่สามารถช่วยคุณได้ เขาสามารถยกโทษบาปของคุณและให้ความสุขที่ยั่งยืนแก่คุณ ชื่อของเขาคือพระเยซู ฉันอยากจะเล่าเรื่องราวของพระองค์ให้คุณได้ฟัง

พระบิดาของพระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงสร้างโลก พระองค์ทรงสร้างทุกสิ่งในโลกนี้ให้กับคุณและฉัน

พระเจ้ารักเรา ทรงรักทุกคนในโลก พระเจ้ารักเรามากจนส่งพระเยซูพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มายังโลกนี้ เมื่อพระเยซูอยู่บนโลกนี้ พระองค์ทรงรักษาคนเจ็บป่วยและปลอบโยนคนเศร้า รักษาคนตาบอดให้หายและสั่งสอนหลายสิ่งหลายอย่างให้แก่ผู้คน

ข้อความที่สมบูรณ์: พระผู้ช่วยให้รอดสำหรับคุณ

พระเยซูต้องการให้เราเข้าใจถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่พระบิดามีต่อคุณและฉัน พระองค์ทรงเล่าเรื่องๆหนึ่งที่อธิบายความรักของพระบิดา คุณสามารถหาอ่านได้ในพระธรรมลูกา 15:11-24

ชายคนหนึ่งมีบุตรชายสองคน เขาคิดว่าทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี จนกระทั่งวันหนึ่งบุตรชายคนหนึ่งคิดกบฎและมาหาเขาและพูดว่า “ฉันไม่ชอบบ้านหลังนี้ ฉันต้องการไปตามเส้นทางของตัวเอง ฉันจะไปจากบ้านหลังนี้ ช่วยแบ่งมรดกให้ฉันด้วย” พ่อเสียใจมาก แต่เขาก็ให้เงินแก่บุตรชายและปล่อยเขาไป เขาสงสัยว่าเขาจะได้พบบุตรชายของเขาอีกหรือไม่

ลูกชายจากไปไกล เขามีความสุขกับการใช้เงินและเพื่อนๆ เขาใช้จ่ายเงินโดยประมาทด้วยการใช้ชีวิตที่เห็นแก่ตัว เขาคิดว่าเขากำลังมีช่วงเวลาดีๆ จนกระทั่งจู่ๆ เงินของเขาก็หมดและเพื่อนๆ ก็ทิ้งเขาไป เขาอยู่คนเดียวและขัดสน ตอนนี้เขาควรทำอย่างไร?

เขาไปหาชาวนาและชาวนาก็ส่งเขาไปเลี้ยงหมู เขาได้กินอาหารเพียงเล็กน้อย เขาหิวมากจนต้องกินอาหารหมู เขาเริ่มคิดถึงสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่เขาได้ทำลงไปรวมถึงสิ่งที่กระทำต่อพ่อของเขา เขามีความทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ

The prodigal son feeding the pigs

อยู่มาวันหนึ่งเขาระลึกถึงความรักของพ่อที่มีต่อเขามากมายเพียงใด เขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีขณะที่เขาอยู่ที่บ้าน แม้แต่คนใช้ของพ่อก็ยังมีอาหารกินอย่างมากมาย

เขาคิดว่า “ฉันสามารถกลับไปหาพ่อหลังจากทำสิ่งเลวร้ายต่อท่านได้ไหมนะ? ท่านจะยังรักฉันอยู่ไหมนะ? ฉันไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกของท่าน ฉันเต็มใจที่จะเป็นแค่คนรับใช้หากเพียงท่านรับฉันเข้าไป”

ทันใดนั้น เขาก็ลุกขึ้นและเดินทางกลับไปหาพ่อของเขา เขาอยากรู้ว่าพ่อของเขาจะให้อภัยเขาหรือไม่

พ่อเฝ้ารอคอยนับตั้งแต่บุตรชายจากไป เขามักจะสงสัยว่า “เขาจะกลับมาไหมนะ” วันหนึ่งเขาเห็นใครบางคนเดินมาแต่ไกล นั่นอาจจะเป็นลูกชายของเขา เมื่อเห็นดังนั้น เขาก็วิ่งไปโอบกอดบุตรชายของเขา

“พ่อครับ” บุตรชายกล่าว “ลูกได้ทำบาปต่อพ่อแล้ว ลูกไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกของพ่อ”

แต่พ่อของเขากล่าวว่า “จงนำเสื้อผ้าที่ดีที่สุดมาให้ลูกชายของฉันและจงเตรียมงานเลี้ยง ลูกชายของฉันหายไป แต่ตอนนี้ฉันพบเขาแล้ว”

The father welcoming the prodigal son home

เราทุกคนเป็นเหมือนลูกชายคนนี้ เราทุกคนหลงจากพระเจ้าซึ่งเป็นพระบิดาของเรา เราได้เสียโอกาสและสิ่งดีๆ มากมายที่พระองค์ประทานแก่เรา เราดำเนินชีวิตอย่างเห็นแก่ตัวและกบฏต่อพระองค์ วันนี้พระบิดาบนสวรรค์ทรงเชิญเราให้มาหาพระเยซู พระองค์กำลังรอเราด้วยอ้อมแขนของพระองค์

พระเยซูทรงแสดงความรักของพระองค์แก่เราโดยการสละพระชนม์ชีพของพระองค์เป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของเราและของคนทั้งโลก พระองค์ทรงทนรับความเจ็บปวดและการปฏิเสธขณะทรงยอมให้คนชั่วร้ายตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขน โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พระองค์ทรงฟื้นจากความตายและทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์

จงกลับมาหาพระเยซูและขอให้พระองค์ยกโทษบาปของคุณ เมื่อพระองค์ทรงเห็นว่าคุณเสียใจในความผิดที่คุณทำ พระองค์จะทรงยกโทษให้คุณและล้างบาปทั้งหมดของคุณออกด้วยพระโลหิตที่หลั่งไหลของพระองค์ มันจะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม! คุณจะกลายเป็นคนใหม่ ชีวิตจะมีความหมายใหม่ พระเยซูจะประทานความสุขแทนที่ความรู้สึกผิดและความกลัวของคุณ พระองค์จะเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ

ติดต่อเรา

ใบสั่งซื้อ

ศาสนาคริสต์คืออะไร?

Cross of Christ

ศาสนาคริสต์มีพื้นฐานมาจากพระเจ้า พระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพระบุตรของพระเจ้า และพระคัมภีร์ซึ่งเป็นพระวจนะของพระเจ้า คริสเตียนคือผู้ที่เชื่อพระคัมภีร์และดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระเยซูคริสต์ วิถีชีวิตนี้นำสันติสุขและความพึงพอใจมาสู่โลกนี้และเตรียมเราให้พร้อมสำหรับบ้านในสวรรค์

พระเจ้าพระบิดา

พระคัมภีร์สอนว่ามีเพียงพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่เป็นมาโดยตลอดและจะเป็นตลอดไป พระเจ้าทรงรู้ทุกสิ่ง สติปัญญาและความรู้ของพระองค์นั้นไร้ขีดจำกัด พระคัมภีร์กล่าวไว้ในสุภาษิต 15:3 ว่า “พระเนตรของพระเยโฮวาห์​อยู่​ในทุกแห่งหน ทรงเฝ้าดูคนชั่วและคนดี” พระองค์อยู่ทุกที่และให้ความสนใจกับทุกคนในโลกอย่างเต็มที่ในเวลาเดียวกัน เราสามารถอธิษฐานถึงพระเจ้าได้จากทุกที่และทุกเวลา พระองค์ทรงฟังคำอธิษฐานของเราและจะทรงตอบตามที่ทรงเห็นดีว่าที่สุด มีพระเจ้าเพียงองค์เดียว แต่ปรากฏในสามบุคคล (หรือสามพระภาค) คือ พระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระบุตร และพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามมีความแตกต่างกัน แต่ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืนเพราะเป็นหนึ่งเดียวกัน

การทรงสร้างและการล่มสลายของมนุษยชาติ

พระเจ้าทรงสร้างโลกและทุกอย่างบนโลก ทรงสร้างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ดิน น้ำ นก และปลาภายในห้าวัน และในวันที่หก พระเจ้าได้ทรงสร้างสรรพสิ่งในแผ่นดิน แล้วทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายของพระองค์เอง มนุษย์เป็นมงกุฎแห่งการทรงสร้างของพระเจ้าและเป็นการแสดงออกถึงความรักของพระองค์ พระเจ้าสร้างอาดัม มนุษย์คนแรกที่บริสุทธิ์และปราศจากบาป พระเจ้าต้องการให้มนุษย์รับใช้พระองค์โดยให้ทางเลือกส่วนบุคคล พระองค์ประทานบัญญัติง่ายๆ แก่อาดัมและเอวาภรรยาเพียงข้อเดียว แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่เชื่อฟัง เพราะบาปของพวกเขา พวกเขาจึงถูกแยกออกจากพระเจ้า การไม่เชื่อฟังของพวกเขาทำให้ทุกคนตกอยู่ภายใต้การสาปแช่งของบาปและความตาย พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถไถ่มนุษยชาติได้ เพราะความรักของพระองค์ “พระองค์ได้​ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์​ที่​บังเกิดมา เพื่อผู้ใดที่เชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่​พินาศ แต่​มี​ชี​วิ​ตนิรันดร์” (ยอห์น 3:16)

พระเจ้าพระบุตร

 

ข้อความที่สมบูรณ์: ศาสนาคริสต์คืออะไร?

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์เสด็จมายังโลกอย่างทารก เกิดจากหญิงพรหมจารีย์โดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเยซูทรงดำเนินชีวิตอย่างสามัญชน พระองค์ถูกมารมาล่อลวงใจในหลายๆ ทางเช่นเดียวกับเรา แต่พระองค์ไม่เคยทำบาป พระเยซูเสด็จไปทำความดี รักษาโรคต่างๆ ให้กับคนเป็นอันมาก พระองค์ทรงสอนพวกเขาเกี่ยวกับความรอดและความรักของพระบิดา จุดประสงค์ของพระองค์ในการเสด็จมาแผ่นดินโลกคือการถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของคนทั้งโลก เมื่อพระเยซูทรงเทศนาเรื่องบาปและความเห็นแก่ตัว พวกผู้นำศาสนาโกรธพระองค์ พวกเขามอบพระองค์ให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ตรึงพระองค์ไว้ หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เหล่าสาวกได้นำพระศพไปฝังในอุโมงค์ ในวันที่สาม โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พระเยซูทรงฟื้นจากความตาย ก่อนที่พระองค์จะเสด็จกลับสวรรค์ พระองค์ทรงสอนเหล่าสาวกถึงวิธีสถาปนาอาณาจักรของพระเจ้า

พระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์

พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นบุคคลที่สามของพระผู้เป็นเจ้าสามพระภาค พระองค์ทรงเปิดเผยพระประสงค์ของพระเจ้าต่อมนุษย์ พระองค์ทรงตำหนิผู้คนในเรื่องรูปเคารพและการกระทำที่เป็นบาป ทรงเชื้อเชิญให้มนุษย์ยอมรับการเสียสละของพระเยซูคริสต์ในการชดใช้บาปของพวกเขา สำหรับผู้ที่เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ พระเจ้าประทานของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นที่ปรึกษาในทุกปัญหาของชีวิต เป็นผู้ปลอบโยนในความทุกข์ยากทั้งหมด พระองค์ทรงตักเตือนคนอธรรม ทรงนำพวกเขาไปสู่ความจริงทั้งมวล

พระคัมภีร์

พระคัมภีร์คือพระวจนะของพระเจ้าและข่าวสารของพระองค์ถึงมนุษย์ ไม่ใช่หนังสือที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่เขียนขึ้นโดยคนของพระเจ้าในสมัยโบราณโดยได้รับแรงบันดาลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระคัมภีร์บันทึกการสร้างโลกและมนุษย์ พระคัมภีร์บอกเราว่าทุกคนทำบาปและบาปนั้นแยกมนุษย์ออกจากพระเจ้า อธิบายถึงวิธีการไถ่ที่สามารถปลดปล่อยทุกคนจากพันธนาการของบาป พระคัมภีร์สอนเราถึงวิธีดำเนินชีวิตตามแบบพระเจ้าและวิธีเตรียมตัวสำหรับกัลปาวสาน

การดำเนินชีวิตแบบคริสเตียน

ในการเป็นคริสเตียน เราต้องตระหนักถึงสภาพที่เป็นบาปของเรา เราต้องสารภาพบาปของเราและยอมรับพระเจ้าพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา เมื่อเรามอบชีวิตของเราแด่พระเจ้า พระองค์ทรงเติมเต็มเราด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณที่สถิตอยู่ภายในทำให้เรารักและให้อภัยผู้อื่นได้ คริสเตียนจะพยายามรักษาความบริสุทธิ์ในใจ ซื่อสัตย์และจริงใจ เมื่อเราล้มเหลว พระคัมภีร์สัญญาว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์​ (พระเจ้า) ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็​จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” (1 ยอห์น 1:9)

ชีวิตหลังความตาย

พระคัมภีร์สอนเราถึงสองปลายทางของชีวิตที่จะต้องเจออยู่ชั่วนิรันดร์นั่นคือสวรรค์และนรก เมื่อเราตาย วิญญาณจะออกจากร่างเพื่อรอการพิพากษาครั้งสุดท้ายของพระเจ้า เมื่อถึงการพิพากษา ผู้ที่ได้รับความรอดจะได้รับเชิญไปสวรรค์ ทุกคนที่ปฏิเสธพระเจ้าจะถูกส่งไปยังนรก นรกเป็นสถานที่ที่น่ากลัว เป็นหลุมไฟที่ลุกโชนซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารและทูตสวรรค์ของมัน ทุกคนที่ไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยซู แต่จงใจดำเนินชีวิตในบาปจะถูกเผาไหม้อย่างไร้ความหวังตลอดไป

สวรรค์เป็นที่พำนักของพระเจ้า เป็นสถานที่ที่สวยงามที่สุด เต็มไปด้วยสันติสุขและการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบซึ่งพระเจ้าจัดเตรียมไว้ ในสวรรค์จะไม่มีความเศร้าโศกหรือความเจ็บปวดอีกต่อไป ไม่มีการหิวโหยหรือเจ็บป่วยอีกต่อไป เป็นบ้านสำหรับทุกคนที่ละทิ้งบาปและยอมรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ที่นั่นผู้รอดจะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าตลอดไป

ติดต่อเรา

ใบสั่งซื้อ

หลังความตาย

ในเวลานี้คุณยังมีชีวิตอยู่ คุณหายใจ เคลื่อนไหวหรือทำงาน คุณอาจใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายหรืออยู่ในความทุกข์ยาก มีพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก มีเด็กกำลังเกิดที่ไหนสักแห่ง แต่ก็มีใครบางคนกำลังจะตายอยู่สักที่เสมอ

ทุกชีวิตเป็นเพียง 
การจัดเตรียมชั่วคราวเท่านั้น

แต่ว่า

หลังจากตายแล้ว คุณจะไปไหน?

ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร

หรือไม่เชื่อในศาสนาใด ๆ ก็ตาม

คุณยังคงต้องตอบคำถามที่สำคัญเหล่านี้

เพราะหลังจากชีวิตบนโลกอันแสนสั้นสิ้นสุดลง

มนุษย์ต้องเข้าสู่จุดหมายปลายทางอันเป็นนิรันดร์ของตน (ปัญญาจารย์ 12:5)

ที่ไหนละ?

สุสานที่คุณจะถูกฝังไม่สามารถฝังจิตวิญญาณของคุณได้ แม้ว่าร่างกายของคุณจะถูกเผาที่กองเพลิง แต่ก็ไม่สามารถกลืนกินจิตวิญญาณของคุณได้ หากคุณเสียชีวิตในทะเลลึก จิตวิญญาณของคุณก็จะไม่จมน้ำตาย

วิญญาณของคุณจะไม่มีวันตาย!

ข้อความที่สมบูรณ์: หลังความตาย

พระเจ้าแห่งสวรรค์และโลก

ได้ตรัสว่า “วิญญาณทั้งหมดเป็นของเรา”

ในปรโลกจิตวิญญาณของคุณ ซึ่งเป็น “ตัวจริง” ของคุณจะต้องเผชิญกับการกระทำที่คุณได้ทำไปในขณะที่ยังมีชีวิตไม่ว่าจะทำดีหรือไม่ดี -- อ้างถึง ฮีบรู 9:27

คุณอาจนมัสการด้วยความจริงใจ

คุณอาจรู้สึกเสียใจกับการกระทำที่ไม่ดีของคุณ

คุณอาจซ่อมแซมสิ่งที่ถูกขโมย

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น—

แต่-

คุณไม่สามารถชดใช้บาปของคุณเองได้

พระเจ้าแห่งสวรรค์ ผู้พิพากษาที่ชอบธรรมของโลกทรงรู้ความบาปและชีวิตของคุณ ไม่มีอะไรซ่อนเร้นจากพระองค์ คุณที่มีบาปไม่สามารถเข้าสู่ความสุขและสิริของโลกอนาคตได้

แต่พระเจ้าบนสวรรค์องค์เดียวกันนี้เป็นพระเจ้าแห่งความรัก พระองค์ทรงออกแบบวิธีการไถ่ชีวิตและจิตวิญญาณของคุณ คุณจะไม่ถูกโยนลงไปในความหายนะและไฟนรกอันเป็นนิรันดร์ พระเจ้าส่งพระเยซูเข้ามาในโลกนี้เพื่อช่วยจิตวิญญาณของคุณ พระเยซูรับบาปของคุณไว้กับพระองค์เมื่อพระองค์ทนทุกข์และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระเจ้าประทานสวรรค์ที่ดีที่สุดเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของคุณ “แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความละเมิดของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความชั่วช้าของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายปลอดภัยนั้นตกแก่ท่าน ที่ต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี” (อิสยาห์ 53:5) ถ้อยคำเหล่านี้พยากรณ์เกี่ยวกับพระเยซูไว้หลายปีก่อนที่พระองค์จะเสด็จมาบนโลก

คุณจะเชื่อไหมว่าพระเยซูรักคุณ? คุณจะอธิษฐานและสารภาพบาปต่อพระองค์หรือไม่? คุณจะกลับใจและเชื่อในพระเยซู พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่หรือไม่? พระองค์จะทรงนำสันติสุขมาสู่จิตวิญญาณของคุณและประทานชีวิตอันรุ่งโรจน์หลังความตายแก่คุณ เพียงเท่านี้คุณก็สามารมั่นใจได้ว่าคุณจะมีบ้านนิรันดร์ที่เต็มไปด้วยสันติสุขความชื่นชมยินดีและการปลอบโยนสำหรับจิตวิญญาณของคุณ

แต่ว่า! หลุมแห่งความหายนะและไฟที่ไม่สิ้นสุดกำลังรอผู้ที่ปฏิเสธความรักแห่งการไถ่ของพระเยซูขณะที่ยังมีชีวิต จะไม่มีการหันกลับหรือความช่วยเหลือหลังความตาย “แล้วพระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายพระหัตถ์ด้วยว่า ‘ท่านทั้งหลาย ผู้ต้องสาปแช่ง จงถอยไปจากเราเข้าไปอยู่ในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับพญามารและสมุนของมันนั้น” (มัทธิว 25:41) “จงเอาเจ้าผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์นี้ไปทิ้งเสียที่มืดภายนอก ซึ่งที่นั่นจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน” (มัทธิว 25:30)

ในพระคัมภีร์ พระเจ้าได้เตือนถึงการพิพากษาครั้งสุดท้ายของทั้งโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น ในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ มีคำทำนายว่าก่อนวันพิพากษาจะเกิดขึ้น จะมีหมายสำคัญที่ชัดเจนและเด่นชัด

ก่อนที่พระองค์จะเสด็จมา จะมีสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม ความทุกข์ยาก และความฉงนสนเท่ห์ของประชาชาติ ชาติต่างๆ จะต่อสู้กันเองและดูเหมือนจะไม่มีทางแก้ไขทัศนคติและความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้

จะเกิดแผ่นดินไหวและโรคระบาดในสถานที่ต่างๆ พระคัมภีร์บอกเราว่าคนชั่วจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน ผู้คนจะไม่ฟังคำเตือน แต่จะรักความสนุกสนานมากกว่ารักพระเจ้า เราไม่ได้เห็นความสำเร็จของคำพยากรณ์เหล่านี้ในยุคของเราหรอกหรือ? อ้างถึงมัทธิว 24:6-7, 12 และ 2 ทิโมธี 3:4

ขอให้เราจำไว้ว่าผู้พิพากษาที่ยุติธรรมและยิ่งใหญ่ของเราจะไม่ถูกชักจูงหรือถูกโน้มน้าวด้วยความมั่งคั่งหรือความยากจน ชื่อเสียงหรือความอัปยศ หรือโดยผิวสี เชื้อชาติ วรรณะ หรือความเชื่อของเรา สักวันหนึ่งเราจะยืนต่อหน้าพระผู้สร้างและพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของเราเพื่อรับการพิพากษาตามการกระทำของเรา อ่าน มัทธิว 25:32-33

ในนิรันดร์กาลที่อยู่เบื้องหน้าจะไม่มีนาฬิกาบอกเวลา ไม่มีปฏิทินประจำปี หรือนับศตวรรษ ควันแห่งความทรมานของคนบาปและความอธรรมจะพุ่งขึ้นไปตลอดกาลและตลอดไป—ในขณะเดียวกันความปีติ เสียงเพลง ความสุข และการเล้าโลมใจของผู้ที่ได้รับการไถ่จะไม่มีวันสิ้นสุดในสวรรค์ จงเลือกเลยตอนนี้ อย่าได้รอช้า! มิฉะนั้นอาจจะสายเกินไป “ดูเถิด บัดนี้เป็นวันแห่งความรอด” (2 โครินธ์ 6:2, มัทธิว 11:28-30)

ติดต่อเรา

ใบสั่งซื้อ