การให้อภัย

คุณได้รับการอภัยหรือยัง? อนาคตอันชั่วนิรันดร์ของคุณขึ้นอยู่กับคำตอบของคำถามนี้ พระคัมภีร์สอนเราว่า “ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย ” (โรม 3:10) ข้อ 23 ของบทเดียวกันกล่าวว่า “เหตุว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากสง่าราศีของพระเจ้า” เราต้องได้รับการอภัยจากพระเจ้าหากเราต้องการรอดจากผลของความบาป สักวันเราจะได้พบกับพระเจ้าในการพิพากษา “เพราะว่าจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องปรากฏตัวที่หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ เพื่อทุกคนจะได้รับสมกับการที่ได้ประพฤติในร่างกายนี้ แล้วแต่จะดีหรือชั่ว” (2 โครินธ์ 5:10) เรากำลังเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่านิรันดร์และสิ่งนี้ทำให้เราจำเป็นต้องรู้ว่าเราได้รับการอภัยหรือไม่ หากได้รับการอภัยเราก็จะถูกรับไปสวรรค์ หากไม่เราจะถูกพิพากษาให้ตกนรกชั่วนิรันดร์กับมารและสมุนของมัน (มัทธิว 25:31-34, 41)

การให้อภัยโดยพระโลหิตของพระคริสต์

ดังนั้น เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยจิตวิญญาณของเรา? เราไม่สามารถช่วยตัวเองให้รอดได้ แต่เราสามารถยอมรับแผนการณ์ที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้เราได้ เราจะเข้าใจแผนนี้เมื่อเราพิจารณาถึงสิ่งที่พระองค์แสดงต่อชาวอิสราเอลซึ่งเป็นประชากรของพระองค์ก่อนที่พระคริสต์จะเสด็จมา พระเจ้าบอกให้พวกเขาถวายสัตว์เป็นเครื่องบูชา ลูกแกะที่ถูกฆ่านั้นชี้ไปที่พระเมษโปดก (หรือแกะ) ที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้านั่นคือพระเยซูคริสต์ พระองค์จะทรงไถ่ทุกคนโดยการหลั่งพระโลหิตของพระองค์สำหรับบาปของพวกเขา การหลั่งโลหิตยังช่วยให้ผู้คนเข้าใจถึงความร้ายแรงของบาปอีกด้วย เอเฟซัส 1:7 กล่าวว่า “ได้รับการไถ่โดยพระโลหิตของพระองค์ คือได้รับการอภัยโทษบาปของเรา”

“ท่านรู้ว่า มิได้ไถ่ไว้ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้... แต่ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตอันมีราคามากของพระคริสต์ ดังเลือดลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่าง” (1 เปโตร 1:18-19) การให้อภัยของเรามาจากการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์และการหลั่งพระโลหิตของพระองค์เพื่อบาปของมนุษย์ (ฮีบรู 9:22)

ข้อความที่สมบูรณ์: การให้อภัย

ขอให้เราสังเกตว่า เพราะบาปของเรา เราสมควรที่จะได้รับความตายนิรันดร์ แต่เนื่องจากความรักและความเมตตาของพระองค์ พระเยซูสิ้นพระชนม์แทนเราเพื่อที่เราจะได้รับการอภัยและครอบคลุมการล่วงละเมิดทั้งสิ้นของเรา

การไม่ให้อภัยนำมาซึ่งความเป็นทาส

เมื่อเราได้รับการให้อภัยจากพระคริสต์เราก็ได้รับสันติสุข เพื่อรักษาสันติสุขนี้ไว้เราจำเป็นต้องให้อภัยผู้อื่นเช่นกัน พระคริสต์บอกเราในมัทธิว 6:14-15 ว่า “เพราะว่าถ้าท่านยกการละเมิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะทรงโปรดยกโทษให้ท่านด้วย แต่ถ้าท่านไม่ยกการละเมิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านจะไม่ทรงโปรดยกการละเมิดของท่านเหมือนกัน”

พระเยซูทรงเล่าเรื่องหนึ่งเพื่อสอนเราเกี่ยวกับอันตรายของการไม่ให้อภัย เป็นเรื่องของกษัตริย์องค์หนึ่งที่ต้องการตรวจสอบบัญชีของข้าราชบริพาร เขาพบว่ามีคนใช้คนหนึ่งเป็นหนี้เขาจำนวนมากซึ่งเท่ากับค่าจ้างหลายปี กษัตริย์บอกคนใช้ให้เขาขายตัวของเขา ครอบครัวของเขา และทรัพย์สินทั้งหมดของเขาเพื่อนำมาใช้หนี้ คนใช้ขอความเมตตาและกษัตริย์ก็ยกหนี้ให้เขา ต่อมาคนใช้คนนี้พบกับเพื่อนคนใช้อีกคนซึ่งเป็นหนี้เขาเล็กน้อยเพียงค่าจ้างหนึ่งวัน เขาบอกเพื่อนคนใช้ว่าเขาจะต้องจ่ายเต็มจำนวน เพื่อนผู้รับใช้ของเขาอ้อนวอนขอความเมตตา แต่คนใช้ไม่ยอมยกหนี้ให้ เมื่อกษัตริย์ทรงทราบดังนั้นจึงเรียกคนใช้มาและกล่าวว่า “เราให้อภัยเจ้าเมื่อเจ้าขอการอภัย เจ้าไม่ควรทำแบบเดียวกันนี้หรือ?” กษัตริย์จึงส่งเขาเข้าคุกจนชำระหนี้ได้ทั้งหมด พระเยซูตรัสว่าพระบิดาบนสวรรค์ของเราจะไม่ให้อภัยเราหากเราไม่ให้อภัยผู้อื่น (มัทธิว 18:23-35)

การเกลียดชังใครสักคน การขุ่นเคืองใจหรือเก็บความแค้นไว้เป็นเหตุให้เกิดผลด้านลบมากมาย ผู้ที่ยอมให้ทัศนคติเหล่านี้อยู่ในชีวิตก็จะกลายเป็นความทนทุกข์ ความสัมพันธ์ของเขาก็เลวร้ายลงเช่นกัน

เมื่อเราไม่ให้อภัยผู้อื่น จะนำมาซึ่งความเป็นทาสในจิตวิญญาณของเราซึ่งเปรียบได้กับการตกเป็นทาสของผู้คนหรือถูกผูกมัดจากสารเสพติด การไม่ให้อภัยนี้ทำเราเกิดความขมขื่น ติดอยู่ในความเศร้า ความโกรธ และการทะเลาะวิวาท มันปิดกั้นความสุข ความรัก และการสามัคคีธรรม ความขมขื่นนี้เป็นผลมาจากจิตวิญญาณแห่งความภาคภูมิใจในการพยายามรักษาบาดแผลและการแก้แค้นให้กับความผิด หากเราปฏิเสธที่จะปลดปล่อยความรู้สึกขุ่นเคือง ในที่สุดมันก็จะควบคุมเรา เราจะเป็นทาสของมันเช่นเดียวกับการเป็นทาสของความบาปต่อพระพักตร์พระเจ้า

การให้อภัยอย่างไม่มีเงื่อนไข

พระเยซูทรงสอนว่าวิธีเดียวที่เราจะให้อภัยผู้อื่นได้ก็คือวิธีที่พระองค์ทรงให้อภัยเรา เราต้องให้อภัยโดยไม่คำนึงถึงลักษณะความผิดหรือความรุนแรง จำนวนความผิด หรือลักษณะของผู้ที่ทำผิดต่อเรา เราต้องแสดงความเมตตาอย่างไม่มีเงื่อนไขอย่างที่พระเจ้าได้แสดงความเมตตาต่อเรา เมื่อเราถ่อมตัวและให้อภัยผู้อื่น พระเจ้าเปิดทางให้เราได้พบกับการอภัยในความผิดพลาดและความบาปของเรา พระเจ้าให้อภัยทุกคนที่มาหาพระองค์ด้วยใจถ่อมและสำนึกผิด

เมื่อเราติดตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะรู้ความจริง และความจริงจะทำให้เราเป็นอิสระ (ยอห์น 8:32) ข้อ 36 กล่าวว่า “เหตุฉะนั้นถ้าพระบุตรจะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท ท่านก็จะเป็นไทจริงๆ”

“วันนี้ ถ้าท่านทั้งหลายจะฟังพระสุรเสียงของพระองค์ อย่าให้จิตใจของท่านแข็งกระด้างไปอย่างในครั้งกบฏนั้น” (ฮีบรู 3:15) ในมัทธิว 11:28 พระเยซูตรัสว่า “จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข” เมื่อเราทำตามคำสอนเหล่านี้ เราจะได้รับการให้อภัยและสามารถให้อภัยผู้อื่นได้

มาหาพระเจ้า

คำถามคือ เราจะมาหาพระเจ้าได้อย่างไร? คำตอบอยู่ในพระคัมภีร์ “ไม่มีผู้ใดมาถึงเราได้นอกจากพระบิดาผู้ทรงใช้เรามาจะทรงชักนำให้เขามา” (ยอห์น 6:44) พระเจ้าโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้เราตระหนักว่าเราเป็นคนบาปและต้องการพระผู้ช่วยให้รอด บางครั้งเราไม่เข้าใจการทรงเรียกของพระเจ้าอย่างถ่องแท้ เราอาจเริ่มสังเกตเห็นความรู้สึกว่างเปล่าและอ้างว้างในใจ ความต้องการบางอย่าง ความรู้สึกที่ไม่ถูกต้อง ความเชื่อมั่นที่เราสูญเสียไป

เมื่อเรารู้สึกว่าจิตวิญญาณของเราไม่สงบ เราต้องเปิดใจขอการทรงนำจากพระเจ้า ภาระบาปเป็นสิ่งที่หนักและใจของเราสำนึกผิดเพราะบาปที่เคยทำบาปอดีต พระเจ้าต้องการให้เรามอบชีวิตของเราให้กับพระองค์ในการกลับใจอย่างแท้จริง เมื่อพระเจ้าเห็นใจที่ชอกช้ำและสำนึกผิดของเรา และความพร้อมที่จะทำตามพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์จะทรงยกโทษชีวิตบาปในอดีตของเรา และเราได้รับการให้อภัยและมีสันติสุข (สดุดี 34:18; สดุดี 51:16-17) โอ... ตอนนี้เรามีความสุขเพียงใด และต้องการแบ่งปันสิ่งที่พระคริสต์ทรงกระทำในใจของเราให้กับผู้อื่น!

เสรีภาพนี้ไม่ได้มาจากการใช้เหตุผลของมนุษย์ แต่เป็นงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เปลี่ยนเราไปสู่ชีวิตใหม่ โดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์นี้เรามีศรัทธาที่จะวางใจในพระเจ้า เพื่อที่เราจะสามารถสละความปรารถนาของเราเองและให้อภัยผู้อื่นได้ 2 โครินธ์ 5:17 กล่าวว่า “เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆก็ล่วงไป ดูเถิด สิ่งสารพัดกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น”

วิธีให้อภัยในพระคัมภีร์นั้นสวยงาม ด้วยศรัทธาที่ไว้วางใจในการเสียสละของพระเยซู ควบคู่ไปกับการยอมจำนนต่อพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์ขจัดความผิดออกจากหัวใจของเรา บาปของเราถูกปกคลุมด้วยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์อย่างสมบูรณ์ การให้อภัยที่พระเจ้าประทานแก่เราช่วยขจัดความขุ่นเคืองและความเจ็บปวดของเรา พระองค์ทรงเช็ดตำหนิของเราให้สะอาดและลืมบาปของเรา “จะไม่จดจำบาปและความชั่วช้าของเขาอีกต่อไป” (ฮีบรู 8:12) ช่างเป็นเสรีภาพที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ที่เราสามารถสัมผัสได้เมื่อพระเจ้าให้อภัยบาปของเรา เราสามารถให้อภัยเพื่อนมนุษย์ของเราได้ และคุณเองก็สามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้ได้ในชีวิตของคุณ

ติดต่อเรา

ใบสั่งซื้อ

ความสงบของจิตใจในโลกที่มีปัญหา

Peace

“ความสงบสุขของชาติ ของครอบครัว ที่สำคัญคือจิตใจและความคิดของเราอยู่ที่ไหน?” เสียงร้องโหยหวนนี้ได้ยินตลอดมาทุกยุคทุกสมัย หัวใจของคุณร่ำร้องอยู่หรือไม่?

ผู้คนต่างเหนื่อยล้าและวิตกกังวล แน่นอนว่าพวกเขาต้องการคำชี้แนะแนวทาง ความมั่นคงปลอดภัยอย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งที่เราต้องการและจำเป็นอย่างยิ่งยวดคือความสงบในจิตใจ

ความสงบในจิตใจ - ช่างเป็นสมบัติล้ำค่า! เราสามารถค้นหาสมบัติชิ้นนี้ในโลกที่มีความขัดแย้ง ความสิ้นหวัง ความวุ่นวายและปัญหามากมายได้หรือไม่?

ข้อความที่สมบูรณ์: ความสงบของจิตใจในโลกที่มีปัญหา

การค้นหาครั้งยิ่งใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว! หลายคนแสวงหาความสงบสุขจากชื่อเสียงและโชคลาภ ความพึงพอใจและอำนาจ การศึกษาและความรู้ ในความสัมพันธ์ของมนุษย์และการแต่งงาน พวกเขาปรารถนาที่จะเติมเต็มความรู้และความมั่งคั่งในกระเป๋าของพวกเขา แต่จิตวิญญาณของพวกเขายังคงว่างเปล่า บางคนหาทางหนีความจริงของชีวิตด้วยยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ แต่ความสงบสุขที่พวกเขาแสวงหากลับหลีกหนีพวกเขา พวกเขายังคงว่างเปล่าและอ้างว้าง ยังคงอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหาด้วยจิตใจที่เป็นปัญหา

มนุษย์ในความวุ่นวาย

พระเจ้าได้สร้างมนุษย์และให้พวกอยู่ในสวนที่สวยงามเพื่อเพลิดเพลินกับความสงบ ความยินดี และความสุขที่สมบูรณ์แบบ แต่เมื่ออาดัมและเอวาไม่เชื่อฟัง พวกเขารู้สึกผิดทันที เมื่อก่อนพวกเขารอคอยการปรากฏตัวของพระเจ้า บัดนี้พวกเขาต้องซ่อนตัวด้วยความละอาย ความรู้สึกผิดและความกลัวเข้ามาแทนที่ความสงบสุขและความสุขที่พวกเขารู้จัก บาปของมนุษย์เป็นจุดเริ่มต้นของโลกที่มีปัญหาและจิตใจที่มีปัญหา

แม้ว่าจิตวิญญาณของเราจะโหยหาพระเจ้า แต่ธรรมชาติที่เป็นบาปของเราจะกบฏต่อวิถีทางของพระองค์ การต่อสู้ภายในนี้ทำให้เกิดความตึงเครียดและความทุกข์ เมื่อเราเป็นเหมือนอาดัมและเอวาที่มีความปรารถนาและความทะเยอทะยานเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง เราจะกระวนกระวายและวิตกกังวล ยิ่งเราสนใจตัวเองมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีปัญหามากขึ้นเท่านั้น ความไม่แน่นอนของชีวิตและโลกที่เสื่อมโทรมและการเปลี่ยนแปลงสั่นคลอนความมั่นคงของเราและรบกวนความสงบสุขของเรา

แม้ว่าคุณอาจไม่ตระหนักหรือรับรู้มัน ความบาปอาจเป็นสาเหตุของความไม่สบายใจของคุณ หลายคนค้นหาวัตถุและสิ่งภายนอกเพื่อความสงบ พวกเขาตำหนิโลกที่มีปัญหาที่สร้างปัญหาให้กับจิตใจของพวกเขา แต่กลับมองไม่เห็นภายในใจของตน

พระเยซูคริสต์ เจ้าชายแห่งสันติภาพ

จะไม่มีความสงบสุขเกิดขึ้นจนกว่าทุกด้านของชีวิตจะประสานกับพระองค์ผู้ทรงสร้างและเข้าใจเรา สิ่งนี้เป็นไปได้โดยการยอมจำนนต่อพระคริสต์อย่างสมบูรณ์เท่านั้น พระองค์ไม่เพียงแต่เป็นเจ้าโลกเท่านั้น แต่ทรงรู้จักชีวิตของเราตั้งแต่ต้นจนจบ ทรงนึกถึงเราเมื่อเสด็จมาในโลก “เพื่อจะส่องสว่างแก่คนทั้งหลายผู้​อยู่​ในที่​มืด และในเงาแห่งความตาย เพื่อจะนำเท้าของเราไปในทางสันติ​สุข” (ลูกา 1:79)

พระเยซูประทานแสงสว่างแทนความมืด สันติแทนความขัดแย้ง ความสุขแทนความเศร้า ความหวังแทนความสิ้นหวัง และชีวิตแทนความตาย พระองค์ตรัสในพระธรรมยอห์น 14:27 ว่า “เรามอบสันติสุขไว้​ให้​แก่​ท่านแล้ว สันติ​สุขของเราที่​ให้​แก่​ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตกและอย่ากลัวเลย”

การกลับใจทำให้จิตใจสงบ

เมื่อคุณรู้สึกว่าบาปทำให้คุณหนักอึ้ง การเยียวยาคือ “จงหันกลับและตั้งใจใหม่ เพื่อจะทรงลบล้างความผิดบาปของท่านเสีย” (กิจการ 3:19) พระเยซูเชิญคุณเข้าสู่ประสบการณ์ที่มีความหมายและเปลี่ยนแปลงชีวิต “บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข” (มัทธิว 11:28) 1 ยอห์น 1:9 สัญญาว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์​ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็​จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” คุณจะยอมรับคำเชิญของพระองค์หรือไม่?

เมื่อคุณมาหาพระเยซู คุณจะพบการให้อภัยและอิสรภาพ หัวใจของคุณจะเต็มไปด้วยความรักและความเมตตา แทนที่จะเป็นความขุ่นเคืองและการไม่ให้อภัย เมื่อพระเยซูครอบครองหัวใจของคุณ คุณจะรักศัตรูของคุณ สิ่งนี้เป็นไปได้โดยฤทธิ์อำนาจแห่งพระโลหิตแห่งการไถ่ของพระคริสต์

อยู่อย่างสงบ

ในฐานะคริสเตียน ความเชื่อศรัทธาในพระเจ้าและความไว้วางใจในการดูแลของพระองค์คือยาแก้พิษสำหรับความกลัวและความวิตกกังวล การวางใจในพระเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่เป็นนิจนั้นช่างสงบสุขเพียงใด พระองค์รักเราและจะดูแลเราตลอดไป แล้วทำไมเราต้องกังวลและกลุ้มใจ? เราสามารถทำได้เมื่อเราอ่านใน 1 เปโตร 5:7 “จงละบรรดาความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย” ยังมีคำสัญญาอีกด้วยว่า “ใจแน่วแน่ในพระองค์​นั้น พระองค์​ทรงรักษาไว้ในสันติภาพอันสมบู​รณ์เพราะเขาวางใจในพระองค์ ” (อิสยาห์ 26:3)

เมื่อมีพระเยซูคริสต์อยู่ในหัวใจ การค้นหาสันติสุขของคุณก็จะสิ้นสุดลง พระองค์จะประทานสันติสุขและความสงบที่มาจากการวางใจพระองค์เท่านั้น คุณจะสามารถกล่าวดังบทกวีที่ว่า:

ฉันรู้จักสันติสุข ในที่ซึ่งไม่มีสันติสุข

ความสงบในที่ซึ่งเต็มไปด้วยลมพายุ

ในที่ลี้ลับเพื่อที่จะได้เผชิญหน้า

ฉันจะไปกับพระองค์ผู้เป็นเจ้านาย

- ราล์ฟ สปอลดิง คุชแมน

คุณจะมีความสงบสุขในโลกที่มีปัญหา! เปิดประตูหัวใจของคุณมาหาพระคริสต์ในเวลานี้ และวันหนึ่งพระองค์จะเปิดประตูสวรรค์ให้คุณ ที่ซึ่งสันติสุขสมบูรณ์จะครอบครองตลอดไปเป็นนิตย์

ติดต่อเรา

ใบสั่งซื้อ

เพื่อนสำหรับคุณ

พระเยซู เพื่อนของคุณ

Jesus is your friend

ฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมี เขาใจดีและจริงใจมากจนอยากให้คุณรู้จักพระองค์ด้วย ชื่อของเขาคือพระเยซู ที่อัศจรรย์ยิ่งก็คือพระองค์ต้องการเป็นเพื่อนของคุณด้วย


ฉันอยากจะเล่าเรื่องราวของพระองค์ให้คุณฟัง เรามาอ่านเรื่องนี้ในพระคัมภีร์กัน พระคัมภีร์เป็นความจริงและ เป็นพระคำของพระเจ้า


พระเจ้าคือผู้สร้างโลกและทุกสิ่งบนโลกใบนี้ พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งสวรรค์และโลก พระองค์ประทานชีวิตและลมหายใจให้กับทุกสิ่ง

ข้อความที่สมบูรณ์: เพื่อนสำหรับคุณ

God's creation

พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าส่งพระองค์จากสวรรค์มายังโลกนี้เพื่อเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเราเอง พระเจ้ารักโลกมาก (หมายความว่าพระองค์ทรงรักคุณและฉัน) ที่พระองค์ส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์คือพระเยซู (เพื่อสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเรา)เพื่อว่าใครก็ตามที่เชื่อในพระองค์จะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ (ยอห์น 3:16)

พระเยซูเสด็จมาบนโลกตั้งแต่ยังเป็นทารกน้อย พ่อและแม่บนแผ่นดินโลกของพระองค์คือโยเซฟและมารีย์ พระองค์เกิดในโรงวัวและนอนในรางหญ้า

Jesus' birth

พระเยซูเติบโตในครอบครัวที่มีโยเซฟและมารีย์เป็นบิดามารดา พระองค์เชื่อฟังพวกเขา พระองค์มีพี่น้องและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน พระองค์ช่วยโยเซฟทำงานในร้านช่างไม้
 

Jesus and the lad with food

เมื่อพระเยซูเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พระองค์ทรงสอนผู้คนเกี่ยวกับพระบิดาในสวรรค์ของพระองค์ แสดงให้พวกเขาเห็นว่าพระเจ้ารักพวกเขา พระองค์ทรงรักษาคนป่วยและปลอบโยนผู้ที่มีปัญหา พระองค์เป็นเพื่อนของเด็กๆด้วย พระองค์ต้องการให้เด็กๆอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์ ทรงมีเวลาให้กับพวกเขา เด็กๆ รักพระเยซูและรักที่จะอยู่กับพระองค์

บางคนไม่ได้รักพระเยซู พวกเขาอิจฉาและถึงกับเกลียดชังพระองค์ พวกเขาเกลียดชังพระองค์มากจนอยากจะฆ่าพระองค์ ในวันที่น่ากลัวพวกเขาฆ่าพระเยซูโดยตรึงพระองค์ไว้ที่ไม้กางเขน พระองค์ไม่ได้ทำผิดอะไร พระองค์ต้องตายแทนเราเพราะคุณกับฉันทำผิด

Jesus on the cross

เรื่องราวของพระเยซูไม่ได้จบลงด้วยการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ พระเจ้าทำให้พระองค์ฟื้นจากความตาย! เหล่าสาวกได้เห็นพระองค์จนกระทั่งวันหนึ่งพระองค์ได้เสด็จกลับสู่สวรรค์

วันนี้พระองค์สามารถได้ยินได้เห็นคุณ พระองค์รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณและห่วงใยคุณ เพียงมาหาพระองค์ในคำอธิษฐาน บอกพระองค์ในทุกปัญหาของคุณ พระองค์พร้อมที่จะช่วยเหลือคุณ คุณสามารถก้มศีรษะและพูดคุยกับพระองค์ได้ทุกที่ทุกเวลา

พระองค์จะกลับมาอีกในไม่ช้า! และพระองค์จะนำบรรดาผู้ที่เชื่อในพระองค์กลับไปยังบ้านที่อยู่บนสวรรค์

Jesus listening to a woman pray

ติดต่อเรา

ใบสั่งซื้อ